ตอนวันที่ 10 เดือนมกราคม พันตำรวจเอกศรีวัฒน์ ดีเพียงพอ รองผู้ประกาศ ตำรวจ เผยออกมาว่าดังที่ พล.ตำบลอำเภอสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บังคับบัญชาตำรวจ มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจ)แจ้งเตือนแล้วก็โปรโมทให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนรู้ทันถึงอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี และก็สั่งย้ำให้ตำรวจทำสืบสาวจับกุมตัวผู้ที่ทำความผิดมาดำเนินคดีโดยชอบด้วยกฎหมายโดยตลอดโดยตลอดนั้นปัจจุบันนี้ พบว่ามีพ่อแม่พี่น้องประชาชนจำนวนหลายชิ้นกลายเป็นเหยื่อของผู้ร้าย อย่างไม่รู้ตัวในลักษณะของการสมัครเข้าทำงานงานทางออนไลน์ โดยขอให้นำบัญชีธนาคารของตัวเองมาใช้เพื่อการดำเนินการ สำหรับความประพฤติของฆาตกรเริ่มจาก การประกาศรับสมัครงานผ่านวิถีทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆอ้างถึงว่าเป็นงานที่รายได้สูง สามารถดำเนินการจากที่บ้านได้ แค่เพียงมีคอมพิวเตอร์เพียงแค่นั้น ซึ่งถ้าหากพอใจสมัคร ฆาตกรก็จะชี้แจงแนวทางของการทำงาน โดยงานดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะเป็นการรับโอนเงิน กล่าวถึงว่าเป็นตำแหน่งนักบัญชี รับเงินจากผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ออนไลน์ เมื่อมีเงินฝากบัญชี จะให้โอนเงินถัดไปยังบัญชีที่ผู้ร้ายระบุ และก็จะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินตามปริมาณครั้งที่ทำรายการ ซึ่งเงินที่เข้ามาในบัญชีในความเป็นจริงแล้วเป็นเงินที่ได้จากการฉ้อโกงคนอื่นๆหรือได้มาจากความประพฤติความผิดพลาด นำมาซึ่งการทำให้ผู้ครอบครองบัญชีถูกแจ้งเหตุฟ้องร้องคดี เนื่องมาจากเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ถูกใช้เพื่อสำหรับในการทำไม่ดี
พันตำรวจเอกศรีวัฒน์ กล่าวต่อว่าต่อขาน ตำรวจมีความห่วงพ่อแม่พี่น้องประชาชนมากมายก่ายกอง ก็เลยต้องการจะโปรโมทแจ้งเตือนให้พ่อแม่พี่น้องโปรดใช้ความรอบคอบสำหรับเพื่อการสมัครงานผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้บัญชีธนาคารของท่านสำหรับการรับโอนเงินจากคนอื่นๆ เพราะว่าท่านบางทีอาจ กลายเป็นวัสดุของฆาตกรสำหรับเพื่อการฉ้อฉลคนอื่น หรือผู้ร้ายบางทีอาจนำบัญชีธนาคารของท่านไปใช้สำหรับในการกระทำผิดอื่น ดังเช่นว่า ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการฉ้อฉล การเดิมพัน สิ่งเสพติด หรือการกระทำผิดข้อบังคับอื่นๆผู้ครอบครองบัญชีธนาคารบางทีอาจถูกฟ้องร้องอาญาได้ในกรณีดังนี้ 1.ในฐานะสาเหตุร่วมสำหรับการกระทำผิด จำเป็นต้องระวางโทษดังที่ข้อบังคับกำหนดไว้สำหรับข้อผิดพลาดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 2.ผู้ให้การสนับสนุนสำหรับการทำผิด จะต้องระวางโทษสองในสามส่วน ของโทษที่ข้อบังคับกำหนดไว้สำหรับข้อผิดพลาดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 รวมทั้งถ้าหากทราบหรือควรจะทราบได้ว่าคนที่นำบัญชีไปจะใช้ประโยชน์สำหรับเพื่อการทำความผิด ผู้ครอบครองบัญชีจะมีความผิดฐานฟอกเงิน จำเป็นต้องระวางโทษติดตะราง 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรืออีกทั้งจำทั้งยังปรับ ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองป้องกันและก็กำจัดการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ดังนี้ ถ้าหากท่านพบเจอฆาตกรที่มีความประพฤติรับสมัครงานในแบบอย่างดังที่กล่าวถึงมาแล้ว สามารถแจ้งร่องรอยไปยังสายด่วน 191 รวมทั้งสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 1 วัน
